July 31, 2009

ตำนานแห่งคริสตัล...(The legend of Crystal)



เรื่องราวแห่งพลังมหัศจรรย์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน นำพาสู่ความสุขและชีวิตอมตะ...และเป็นคำตอบของปัญหาทุกอย่างในจักรวาล ตำนานของสวารอฟสกี้ได้ถูกจุดประกาบขึ้นเมื่อกว่า 100 ปีมาแล้ว โดยชาวออสเตรียนชื่อ 'เดเนียน สวารอฟสกี้' จากเมืองวัดเตนส์ แคว้นทีโรล ประเทศออสเตรีย คริสตัลของสวารอฟสกี้ที่ได้รับการเจียระไนอย่างสวยงามนั้น แรกเริ่มได้ถูกนำไปทำเป็นเหมือนเครื่องประดับซึ่งเมื่อปักเข้ากับชุดกลางคืนเพื่อใหชุดหรูหราสวยงามและมีอะไรมากขึ้น ต่อมาก็ได้เข้าไปมีบทบาทและกลายมาเป็นผู้นำในวงการเลนส์ที่ต้องการความแม่นยำสูงอย่าง กล้องจุลทรรศน์ หรือกล้องส่องทางไกล ภายใต้ชือ 'Habicht'

แต่สวารอฟสกี้ก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น คริสตัลเจียระไนชั้นดีของสวารอฟสกี้ยังโด่งดังไปทั่วยุโรป โดยเฉพาะในหมู่ราชวงศ์ในฐานะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำแชนเดอเลียร์ประดับประสาทของราชวงศ์ยุโรปหลายแห่ง ในโรงละครโอเปร่า และพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆ มากมาย
จนเมื่อปี 2538 'สวารอฟสกี้' ได้ประกาศความยิ่งใหญ่ด้วยการสร้าง 'คริสตัล เวิลด์' (Crytal World) พิพิธภันณ์งานศิลปะมัลติมีเดีย ขนาดใหญ่ขึ้นในบริเวณเดียวกับสำนักงานใหญ่ของสวารอฟสกี้ที่เมืองวัตเตนส์ ประเทศออสเตรีย


คริสตัลเวิลด์ตั้งตระหง่ายท่ามกลางธรรมชาติที่ห้อมล้อมด้วยขุนเขาสูงแห่งแคว้นทีโรลของออสเตรีย พิพิธภัณฑ์มัลติมีเดียขนาดใหญ่ที่สวยงามแห่งนี้ได้ถูกจัดแบ่งพื้นที่ไว้อย่างเหมาะเจาะสวยงาม เพื่อทำหน้าที่เล่าความเป็นมาอันน่าอัศจรรย์ของคริสตัล และเพื่อจัดแสดงผลงานทางศิลปะมัลติมีเดียจากคริสตัลของศิลปินนานาชาติ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคริสตัลอีกด้วย นักเดินทางหลายคนถึงกับพูดว่า ใครมาประเทศออสเตรียแล้วไม่ได้มาเยือน 'สวารอฟสกี้คริสตัลเวิลด์' (Swarovaki Crystal World) ก็เหมือนไม่ได้มาออสเตรีย และทุกคนล้วนแล้วแต่เปรียบที่นี่กับิส่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ของโลก ที่น่าจะมาดูให้ได้ครั้งหนึ่งในชีวิต

เมื่อเราได้มีโอกาสมาถึงออสเตรียจึงไม่ยอมพลาดที่จะมาเยือน 'สวารอฟสกี้คริสตัลเวิลด์' และได้พบกับดอกเตอร์แอนเดรียส บราวน์ (Andreas Braun) หัวหน้าเจ้าที่บริหารด้านการท่องเที่ยวของ 'สวารอฟสกี้' (Swarovski) ที่รอต้อนรับและได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันในห้องลูน่า ซาลอน (Luna Salon) ที่มีเพดานประดับด้วยดาวที่ทำจากคริสตัลส่องประดาบระยิบระยับพร้อมๆ กับเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของตำนวนบทใหม่ของ 'สวารอฟสกี้' ที่ชื่อคริสตัลเวิลด์

'คริสตัลเวิลด์ คือสิ่งที่บอกอย่างชัดเจนว่าสวารอฟสกี้เป็นมากกว่าเครื่องประดับหรือของสำหรับตั้งโชว์ แต่คริสตัลสวารอฟสกี้คือส่วนหนึ่งของชีวิตและวัฒนธรรม และเป็นส่วนช่วยสืบสานการเรียนรู้

เราใช้เงิน 780 ล้านบาท (หรือ 15 ล้านยูโร) เพื่อสร้าง 'คริสตัลเวิลด์' เพื่อตั้งใจจะให้เป็นสัญลักษณ์ของการฉลองครบรอบ 100 ปีของสวารอฟสกี้ แต่คริสตัลเวิลด์กลับทำหน้าที่มากกว่านั้น มันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสวารอฟสกี้จากแบรนด์ที่มุ่งแต่ธุรกิจเพียงอย่างเดียว มาเป้นแบรนด์ที่เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เพราะเราตระหนักดีว่าการสร้างให้คนรู้จัก 'สวารอฟสกี้' นั้นจะทำได้โดยผ่านสินค้าของเราเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ถึงแม้ว่าสินค้านั้นจะมีความหมายในตัวมันเองก็ตาม เราต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ ช่วยอีกมาก'

'คริสตัลเวิลด์' ถูกสร้างขึ้นเพื่อนจะให้เป็นที่สำหรับนำเสนอผลงานคริสตัลในหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงผลงานอันเกิดจากแรงบันดาลใจที่ได้มาจากคริสตัล ไม่ว่าจะอยู่ในรูปจองการแสดง การละคน ดนตรีหรือวิทยาศาสตร์ก็ตาม และที่สำคัญที่สุดคือเป็นที่สำหรับแฟนๆ ของ 'สวารอฟสกี้' ได้มาเลือกซื้อคอลเลกชั่นที่มีโชว์อยู่ในร้านมากมายนับไม่ถ้วน

'เราได้ติดต่ออังเดร เฮลเลอร์ (Andre Heller) นักออกแบบที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลกให้มารับผิดชอบโครงการคริสตัลเวิลด์และได้เชิญศิลปินจากนานาประเทศทั่วโลกให้เข้ามาสร้างผลงานที่จะโชว์ในคริสตัลเวิลด์'

หน้าทางเข้านั้นได้รับการออกแบบเป็นรุปยักษ์วัตเตนส์ ที่มีดวงจาเป็นคริสตัลส่องแสงวับวาวเป็นประกายล้อกับแสงแดด มีย้ำพุ่งออกมาจากปากซึ่งดูเผินๆ เหมือนลิ้นยักษ์ตนนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เฝ้าสมบัติอันล้ำค่ำ ซึ่งก็คือผลงานอันประมาณค่ามิได้ของเหล่าศิลปินทั้งหลาย ที่ถูกจัดแสดงไว้อย่างสวยงามในคริสตัลเวิลด์นั่นเอง และสัญลักษณ์อันร่วมสมัยนี้ได้กลายเป็นที่พูดถึงกันไปทั่วโลก

ผลงานมัลติมีเดียจากศิลปินนานาชาติซึ่งตั้งแสดงอยู่ใน 'คริสตัลเวิลด์' นั้นล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่มีความเกี่ยวเนื่องกับศาสตร์ในชีวิตมนุษย์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งไม่ว่าจะเป็น 'คริสตัลโดม' ที่สร้างอย่างอลังการด้วยคริสตัลด้วยถึง 590 ชิ้นที่นำมาเรียงกันเหมือนเข้าไปอยู่ในห้องกระจก หรือ 'คริสตัลโลสโคป' ผลงานของ ปีเตอร์ แมนเดล ที่ทำร่วมกับสวารอฟสกี้

ในห้องนี้เองที่บางคนอาจรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจอันวิเศษมหัศจรรย์ของคริสตัล ซึ่งเป็นพลังรักษาและสร้างสมดุลธรรมชาติที่คริสตัลมีอยู่ในตัว หรือแม้กระทั่งห้องสีอำพันผีมือของอิงเบิร์ก ลุชเชอร์ (Ingeborg Luescher) ที่นำสบู่ 'SOLE' มาเรียงกันเป็นผนังของห้อง มีกลิ่นหอมหวานๆ และสะท้อนออกมาเป็นแสงสีอำพัน ให้ความรู้สึกอบอุ่นราวกับเป็นใยไหมที่ห่อหุ้มดักแด้อยู่

ด้านนอกของพิพิธภัณฑ์มีร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารนานาชาติโดยเชฟฝีมือดี และวันนี้เรายังได้ชิมก๋วยเตี๋ยวผัดกุ้งซึ่งปรุงให้เราชิมเป็นพิเศษด้วย
และที่ติดกับร้านอาหารนั้นคือร้านสวารอฟสกี้ ซึ่งถูกตกแต่งอย่างสวยงามเนื้อที่ประมาณ 800 ตารางเมตร ที่นี่เป็นที่คุณจะสามารถเลือกซื้อของฝากให้กับคนทางบ้านได้อย่างเพลิดเพลิน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ เสื้อยืดหรือแม้กระทั่งตุ๊กตาคริสตัลรูปสัตว์นานาชนิด

เมื่อสร้างเสร็จ 'คริสตัลเวิลด์' ได้กลายเป็นสือกลางของการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ของลูกค้าและ 'สวารอฟสกี้' และถือได้ว่า 'คริสตัลเวิลด์' เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความสมบูรณ์แบบทางด้านศิลปะการออกแบบและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนโด่งดังไปทั่วโลก

ดอกเตอร์บราวน์พูดถึงความสำเร็จของ 'คริสตัลเวิลด์' ว่า

'ความสำเร็จของคริสตัลเวิลด์นั่นยิ่งใหญ่กว่าที่เราคิดมาก จากที่เคยมีนักท่องเที่ยวเพียง 400 คนต่อวันในช่วงแรกๆ เดี๋ยวนี้บางวันมีถึง 4000 คน
อังเดร เฮลเลอร์ประสบความสำเร็จในการปลุกจินตนาการอันแสนวิเศษให้มีชีวิตคริสตัลเวิลด์กลายเป็นเมืองในฝัน เป็นที่ซึ่งครอบครัวจะมาใช้เวลาและมีประสบการณ์ร่วมกัน ร่วมแบ่งปันเสียงหัวเราะและรอยยิ้มอย่างมีความสุข เป็นส่วนหนึ่งของการสานต่อวัฒนธรรม การดำรงชีวิต การเรียนรูเและการพัฒนา'

นอกจากนั้น ทาง 'สวารอฟสกี้' ยังได้สร้างพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ขึ้นเมื่อตอนต้นปีนี้เอง โดยใช้ชื่อว่า 'เดอะคริสตัลเว็บ' (thecrystalweb) โดยหวังจะให้ทั้งพิพิธภัณฑ์ที่เด็กๆ จะได้มานั่งเล่น และเป็นเหมือนเครื่องมือที่ช่วยในการให้ความรู้ โดยมีลักษณะเป็นมัลติมีเดียที่รวบรวมภาพการจัดแสดงคริสตัลในแบบต่างๆ เรื่องราวประวัติของคริสจัล และความเกี่ยวข้องทางวัฒนธรรมของคริสตัลอีกด้วย

'เราจะพยายามที่จะให้คนรู้ถึงความพิเศษของคริสตัล คนโบราณรู้ดีว่าคริสตัลมีอำนาจในการรักษา นำมาซึ่งความสมดุลของพลังชีวิต เป็นจุดเริ่มแห่งจินตนาการและเป็นพลังแห่งการสร้างสรรค์' ดอกเตอร์บราวน์กล่าวยิ้มๆ และ 'สวารอฟสกี้' ก็ตั้งใจที่จะทำให้เด็กรุ่นหลังรู้จักคริสตัลมากขึ้น โดยดอกเตอร์บราวน์ได้กล่าวถึงแผนงานนี้ว่า

'เราตั้งใจที่จะจัดแคมป์ให้กับเด็กๆ ที่มาเที่ยว โดยให้เด็กๆ ได้พูดคุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคริสตัล ไม่ว่าจะเป็นศิลปินหรือแม้กระทั่งพนักงานของเราเอง เพื่อที่จะได้ทราบความเป็นมาและเรื่องราวอันมหัศจรรย์ของคริสตัล'

ปัจจุบัน 'สวารอฟสกี้' คือสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศออสเตรียจนกลายเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของระเทศ คริสตัลของสวารอฟสกี้ในปัจจุบันไม่ได้มีไว้เพื่อโชว์เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

ร้านสวารอฟสกี้ทั่วโลกละลานจาไปด้วยสินค้าที่หลากหลายกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เนกไท และเครื่องประดับทั้งที่ใส่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนซึ่งแสนจะหรูหราโก้ทันสมัย

หลังจากเปิดตัวได้เกือบ 10 ปี คริสตัลเวิลด์ได้กลายเป็นสถานที่ที่ได้รับการเข้าชมมากที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรีย พูดได้ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทั่วโลกได้รู้จักสวารอฟสกี้มากขึ้น และตอนนี้ยังมีส่วนช่วยสานตำนานแห่งสุขบทใหม๋ให้กับคนทุกคนอีกด้วย

ข้อมูลจาก..... เปรียว มกราคม 2548

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

 

Followers

Popular Posts