Oho idea เครื่องพิมพ์วัตถุ 3 มิติ

โครงการ KickStarter เป็นโครงการดีๆ ยอดนิยมสำหรับนักคิดนักประดิษฐ์ที่มีไอเดียดีๆ แต่ขาดทุนสร้างสรรค์ และปัจจุบันได้รับการตอบรับมากยิ่งขึ้นจากผู้มีไอเดียและผู้ที่สนใจไอเดีย ร่วมให้การบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนผู้ผลิตอย่างมากมาย และโครงการล่าสุดที่เรียกได้ว่าน่าสนใจและหลายๆ คนอยากให้เป็นจริงมาก นั่นคือ "เครื่องพิมพ์โมเดล 3D" ที่มีนามว่า FORM 1 ซึ่งใช้พลาสติกเหลวหล่อเป็นรูปและใช้เลเซอร์ในการตัดชิ้นพลาสติกให้เป็นรูปร่างที่ต้องการ แม้ว่าในปัจจุบันเครื่องพิมพ์โมเดล 3D จะมีใช้กันอยู่แล้วในงานใหญ่ๆ ก็ตาม แต่ตัวเครื่องก็มีราคาที่แพงมากเกินกว่าจะหาซื้อมาใช้ได้โดยง่าย

เครื่องพิมพ์วัตถุ 3 มิติ FORM 1 นั้น เปิดให้รับบริจาคเงินพร้อมสั่งจองได้ในราคาต่ำสุดเครื่องละ $2,299 หรือประมาณ 70,000 กว่าบาท ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก แถมคุณภาพงานที่ได้ออกมาจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว ทั้งนี้หลังจากเปิดรับบริจาคเพียง 1 วัน ก็มียอดเงินบริจาคทะลุ $100,000 ไปแล้ว รวมไปถึงเครื่องพิมพ์ล็อตแรกกว่า 25 เครื่อง ที่เป็นยอดบริจาคพร้อมจองต่ำสุด $2,299 ก็ถูกจับจองล่วงหน้าเอาไว้หมดแล้ว ทำให้ผู้ที่ต้องการจองเครื่องล่วงหน้าในตอนนี้ ต้องบริจาคไปไม่ต่ำกว่า $2,699 แล้ว ถึงจะได้เครื่องพิมพ์ FORM 1 มาใช้งาน

 



หรือใครที่ต้องการชมรายละเอียดของโปรเจ็กต์นี้ สามารถเข้าไปชมได้ที่ KickStarter
ขอบคุณข้อมูลไอเดียดีๆ จาก notebookspec.com

Read rest of entry

Ooho idea แนวคิดเม้าส์คอมแพคดิสก์ (Flat CD Mouse)

หลีกหนีความจำเจกับเม้าส์รูปแบบเดิมๆ ที่หน้าตารูปร่างคล้ายหยดน้ำมานมนาน กลับแนวคิดเม้าส์รูปแบบใหม่ ที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้

แนวคิดเม้าส์คอมแพคดิสก์ หรือ "แฟลต ซีดี เม้าส์" (Flat CD Mouse) เป็นเม้าส์ออกแบบใหม่ แบบที่เรียกว่าคิดนอกกรอบเปลี่ยนแปลงไปเลยทีเดียว ด้วยการออกแบบให้ตัวเม้าส์มีลักษณะทรงสี่เหลี่ยมกึ่งวงรี โดยส่วนประกอบของเม้าส์ทำจาก โพลีคาร์บอเนตและซิลิคอนคุณภาพสูงในบริเวณเม้าส์ด้านบน ส่วนภายในทำจากพลาสติก ยัดไส้ในด้วยเซ็นเซอร์ทำจากแผ่นฟิล์มโพลิเอมายด์ที่ทนความร้อนได้เป็นอย่างดี และแบตเตอรี่ออร์แกนิค เรดิคัล ชนิดพิเศษแบบบางเฉียบ พร้อมมีการ์ดยูเอสบีอยู่ด้านข้าง ซึ่งโดยทั่วไปก็ดูเหมือนเม้าส์ไร้สายธรรมดา แค่แปลกตรงรูปทรงเท่านั้น

นอกจากนี้ เม้าส์ตัวนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงนี่ สามารถเปลี่ยนเป็นแผ่นซีดีได้เพียงแค่แกะตัวด้านข้างและส่วนบนออก เม้าส์ก็จะกลายเป็นแผ่นซีดีทันที และขณะเวลาที่เม้าส์กลายเป็นซีดีนั้น สัญญาณการเชื่อมต่อ จะปิดการใช้งานโดยอัตโนมัติ และเมื่ออยากจะใช้เม้าส์ก็เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบเดิม ตัวเม้าส์ก็จะทำการเปิดสํญญาณเองโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกัน

จุดประสงค์ในการออกแบบเม้าส์คอมแพคดิสก์ชิ้นนี้ ก็เพื่อความสะดวกในการเก็บรักษา โดยทำให้เม้าส์กลายเป็นซีดี แล้วนำไปใส่ช่องใส่ซีดีในโน๊ตบุ๊ก ทำให้พกพาสะดวก

ออกแบบโดย: Taewon Hwang

Read rest of entry

Oho idea ไอโฟน 5 รุ่นทองคำแท้ 25K

กระแสความแรงของ iPhone 5 ไม่ได้หยุดอยู่แค่วันเปิดตัวเท่านั้น หลายๆ คนกำลังรอคอยที่จะได้ยลโฉมหรือลองสัมผัส iPhone 5 ด้วยตัวเอง และก็เป็นธรรมเนียมไปเสียแล้วที่ว่า หลังจาก Apple ปล่อย iPhone, iPad ลงตลาดเมื่อไหร่ก็จะมี บริษัทหัวใสเปิดตัว iPhone ทองคำ หรือ iPad ทองคำ ออกมายั่วน้ำลายคนมีตังก์ตามมา 

iPhone 5 ทองคำแท้ เป็น iPhone รุ่นทองคำรุ่นล่าสุด เป็นผลงานการออกแบบและเนรมิตขึ้นมาโดยบริษัทโกลด์ แอนด์ โค (Gold & Co) ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับสั่งทำสินค้าด้วยทองตามแต่ลูกค้าจะสั่งทำ โดยผลงานที่ทำออกมาอวดสู่สายตาคนก่อนหน้านี้ก็ได้แก่ iPhone 4S, The New iPad 

สำหรับ iPhone 5 รุ่นทองคำแท้ ดีไซน์สุดหรูแบบลิมิเต็ด อิดิชั่น ทำจากทองคำบริสุทธิ์ 25 กะรัต และพิเศษตรงที่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่องจะมีพิมพ์ชื่อผู้ผลิตและหมายเลขเครื่องระบุไว้ บรรจุอยู่ในกล่องไม้สุดหรูให้ผู้สะสมได้เก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยผลิตออกมาเพียงแค่ 250 เครื่อง

iPhone 5 รุ่นทองคำแท้ผลิตออกมา 2 แบบ คือ รุ่น เพียว โกลด์(Pure Gold) ซึ่งตัวเครื่องจะเป็นสีทองตัดกับสีดำ และรุ่น โรส โกลด์(Rose Gold) ตัวเครื่องจะเป็นสีชมพูกุหลาบตัดกับสีขาว ส่วนราคานั้นยังไม่ได้รับการเปิดเผยให้ทราบแต่อย่างใด ต้องคอยติดตามกันต่อไป ซึ่งคาดว่าจะมีการจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 27 กันยายนนี้ และเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเข้าชมที่ Dubai Mall ณ นครดูไบ

Read rest of entry

Oho idea แนวคิดเปลี่ยนแท็บเล็ต เป็นเครื่องเล่นเกมส์แพด

มาเปลี่ยนแท็บเล็ตที่อยู่ในมือ เป็นเครื่องเล่นเกมส์แพดแบบเต็มๆ กันดีกว่า รับรองว่าต้องได้อรรถรสมากกว่าการเล่นเกมส์ PSP หรือ Nintendo 3Ds อย่างแน่นอน

แนวคิดออกแบบอุปกรณ์เสริมระบบ Gamepad ที่เปลี่ยน iPad หรือแท็บเล็ตรุ่นต่างๆ ให้เป็นเครื่องเล่นเกมส์ที่มันส์ยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบจอยบังคับแบบแยกส่วนที่ประกอบอยู่ด้านข้างเข้ากับแท็บเล็ต ได้อย่างลงตัวและดูเป็นธรรมชาติ โดยแต่ละข้างของจอยบังคับนั้น มีสายรัดแบบยืดหยุ่นได้ ทำให้ใช้งานได้กับทุกๆ ความกว้างของแท็บเล็ต และสามารถล๊อคตำแหน่งที่ใช้ได้อย่างพอดิบพอดี เชื่อมต่อไร้สายได้ทั้ง Wireless,Bluetooth หรืออุปกรณ์เชื่อมต่อแบบอื่นๆ เพื่อให้เล่นเกมที่ไหนก็ได้

 ออกแบบโดย: Johan Godfroid

Read rest of entry

Oho idea นาโนซิม (Nano Sim) ซิมสุดจิ๋วแบบใหม่

เมื่อผลิตภัณฑ์บางอย่างถูก redesign ย่อมส่งผลต่ออุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ ตามมา และในมุมกลับกันถ้าอุปกรณ์บางอย่างมีการคิดขึ้นใหม่ไว้อยู่แล้ว ก็อาจทำให้ผลิตภัณฑ์บางอย่างต้องออกแบบให้สามารถใช้ด้วยกันได้ เช่นกัน

ตัวอย่างล่าสุดใหม่สดในกระแสอย่าง iPhone 5 ที่เพึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2555 ที่ออกแบบใหม่และได้รับกระแสตอบรับแบบแรงสุดๆ ด้วยดีไซน์คลาสสิคแต่แฝงไปด้วยความเรียบหรูตามสไตล์ของแอปเปิล รวมเข้ากับสเปคของ iPhone5 ที่เร็วกว่าเดิม 2 เท่า กล้องหน้าด้วย FaceTime HD ความละเอียด 720p และใช้ซิมมาตรฐานใหม่นาโนซิม (Nano Sim)

ถามว่าแล้วนาโนซิม (Nano Sim)คืออะไร แตกต่างอย่างไรกับไมโครซิม (Micro Sim) แล้วเครื่องโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ซิมที่มีอยู่ทุกวันนี้ใช้ได้หรือเปล่า?

ซิมการ์ด หรือ SIM ซิมแบบธรรมดา นั้นแรกเริ่มเดิมทีเริ่มใช้กันเมื่อ พ.ศ.2532 มีขนาด 15 x 25 มิลลิเมตร ต่อว่าปี พ.ศ. 2547 ได้เปลี่ยนมาเป็น Micro-SIM ด้วยขนาดที่เล็กลงจากเดิมด้วยการหักส่วนความยาวที่ไม่ได้ใช้ออกประมาณ 48% ทำให้ Micro-SIM มีขนาดเพียง 15 x 12 มิลลิเมตร (ส่วนที่ตัดออกน่าจะใช้เป็นส่วนหยิบจับ เพื่อไม่ให้มือสัมผัสกับลายชิพ)และล่าสุดกับ Nano-SIM นาโนซิม ด้วยขนาด 12.3 x 8.8 มิลลิเมตร (ตัดส่วนที่ไม่ใช้งานออก ให้เหลือเพียงลายชิพเท่านั้น)
นาโนซิม (Nano Sim) เป็นซิมขนาดล่าสุดที่มีแนวคิดปรับเปลี่ยนการออกแบบใหม่ด้วยจุดประสงค์ที่ว่า ต้องการพื้นที่ในเครื่องโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กับการผลิตโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในอนาคต ต้องออกแบบด้วยการลดขนาดของถาดซิมลง ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ สามารถออกแบบอุปกรณ์ให้เบาลง บางลง และเล็กลงได้อีกมาก

สำหรับนาโนซิม (Nano Sim)นี้รูปร่างหน้าตาเรียกว่าสุดจิ๋ว เพราะว่าขนาดเล็กกว่าไมโครซิมถึง 40% มีขนาดเพียง 1 ตารางเซนติเมตร หรือ 12.3 x 8.8 x 0.67 มิลลิเมตร เท่านั้น แต่เห็น Nano Sim มีขนาดเล็กเช่นนี้ ขอบอกว่าความสามารถนั้นไม่ได้ลดลงไปตามขนาดเลยล่ะ เรียกได้ว่าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในอนาคตได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว

ล่าสุดทั้ง AIS, DTAC ได้เตรียมส่งซิมการ์ดดังกล่าวเพื่อรองรับการให้บริการแล้ว เช่นกัน

Read rest of entry

Oho idea กล้องถ่ายภาพล่องหน Air Clicker

ทุกวันนี้คลิปหลุด คลิปแอบถ่ายก็มีให้เห็นกันมากอยู่แล้ว และถ้าต่อไปในอนาคตต้องมาเจอหรือใช้กล้องถ่ายภาพที่ล่องหน หายตัวได้มันจะเป็นยังไง

กล้องถ่ายภาพล่องหน Air Clicker ด้วยแนวคิดการออกแบบเพียงแค่สวมอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ คล้ายแหวนสวมใส่ไปที่สองนิ้ว คือนิ้วหัวแม่มือ และนิ้วชี้ โดยแหวนที่เป็นตัวเลนส์กล้องจะอยู่ที่หัวแม่มือ และส่วนที่จะทำหน้าที่เป็นปุ่มชัตเตอร์อยู่ที่นิ้วชี้ เมื่อต้องการถ่ายภาพก็เพียงแค่ทำมือเป็นรูปเหมือนจับกล้องจริง ให้นิ้วหัวแม่มืออยู่ล่าง นิ้วชี้ตั้งฉากแล้วกดปลายนิ้วชี้ลงมา ตัวเซนเซอร์ก็จะทำงานถ่ายภาพได้แล้ว หรือถ้าอยากถ่ายวีดีโอก็ทำได้ เพียงทำมือเหมือนจับกล้องซูมเท่านั้น

โดยรวมแล้วคิดว่ามันเป็นแนวคิดที่ฉลาดและน่าจะสนุก ถ้ามีอยู่จริง

ออกแบบโดย: Yeon Su Kim

Read rest of entry

Oho-idea เปิดตัว iPhone 5 กับหน้าจอที่ยาวขึ้น

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับคนรักและหลงไหลในแอปเปิลทั่วโลก กับการเปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุด "ไอโฟน 5"(iPhone 5) ซึ่งการเปิดตัว iPhone 5 คราวนี้ได้สร้างความตื่นเต้น (เล็กน้อย)เพราะหลายๆ การออกแบบ หลายๆ ฟังก์ชั่นยังไม่ได้แตกต่างจากที่คิดหรือจินตนาการกันไว้ก่อนหน้านี้ แต่ถึงอย่างไรดูแล้วก็ถือว่าเทคโนโลยี iPhone 5 มีการพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป ยังดูน่าครอบครองเหมือนเดิม

สำหรับความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดของ iPhone 5 คือ การออกแบบตัวเครื่องแบบใหม่ ที่มีความบางของตัวเครื่องเพียง 7.6 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าบางกว่า iPhone 4S ถึง 18% มีน้ำหนักเพียง 112 กรัม ส่งผลให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบากว่าเดิมถึง 20% ส่วนกรอบด้านหลังออกแบบ Two-tone ทำมาจาก anodized aluminium (เป็นวัสดุแบบบรีไซเคิล และไม่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติ โดยยึดหลักมาตรฐาน BFR-free และ PVC-free) ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับ MacBook ส่วนด้านบนและด้านล่างนั้น สำหรับเครื่อง iPhone สีขาวทำมาจาก ceramic glass ส่วน iPhone 5 สีดำ ทำมาจาก pigmented glass



ส่วนหน้าจอแบบยังเป็นแบบ Retina Display แต่มีขนาด 4 นิ้ว ที่มาพร้อมความละเอียด 1136x640 พิกเซล 326 ppi ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ ที่มีชื่อว่า Touch technology โดยรวมเลเยอร์ของหน้าจอ และระบบสัมผัส ไว้ในเลเยอร์เดียวกัน

ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 6
หน่วยประมวลผล Apple A6 ที่มีขนาดเล็กกว่า Apple A5 ถึง 22% ทำให้ CPU และ Graphic ทำงานเร็วขึ้นกว่า iPhone 4S ถึง 2 เท่า

หน้าจอขนาด 4 นิ้ว เทคโนโลยี In-cell touch ความละเอียด 1136 x 640 พิกเซล ในสัดส่วนภาพ 16:9
รองรับการใช้งานอินเทอร์เนต 3G HSPA+ 21Mbps และ 4G LTE ความเร็วสูงสุด 100Mbps

กล้องหลัง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.4 BSI, ถ่ายวีดีโอความละเอียด 1080 p ความละเอียด 3264×2448 พิกเซล และฟีเจอร์ใหม่กับความสามารถในการถ่ายภาพแบบพาโนราม่า ซึ่งสามารถถ่ายได้สูงสุด 240 องศา ที่ความละเอียดของภาพสูงสุดอยู่ที่ 28 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์กันสั่น นอกจากนั้นยังกดชัตเตอร์ได้เร็วขึ้น 40% และปรับปรุงประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย (Low light) ได้ดีขึ้น และลด noise ของภาพอีกด้วย

กล้องหน้ารองรับ FaceTime HD ความละเอียด 720p และถ่ายวิดีโอระดับ 720p
ไมโครโฟน 3 จุด อยู่ด้านบน,ล่างและด้านหลัง เพื่อรองรับการโทรศัพท์เสียง HD ลำโพงสำหรับสนทนาในด้านบนนั้น เป็นแบบมีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนจากภายนอก

Dock connector แบบใหม่มีขนาดเล็กลง 8-pin มีชื่อว่า Lightning และมาพร้อมหัวแปลงเพื่อให้สามารถใช้งานกับ Connector แบบเก่าที่มี 30-pin ได้ เรียกว่าเล็กกว่า connector แบบเก่าถึง 80%

สำหรับใครที่อยากใช้ Dock connector แบบเดิมที่เชื่อมต่อกับ iPhone 5 ได้ ก็เพียง ซื้อหัวแปลง 30-pin สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริม ราคา $29 หรือประมาณ 900 บาท มาใช้ได้

หูฟังรุ่นใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า Earpods ที่ถูกออกแบบใหม่ให้เข้ากับหูของเราได้ทุกสภาพ และทุกรูปแบบ โดย Apple ให้เหตุผลว่า ปกติแล้ว หูของคนเรา มักจะมีลักษณะที่ไม่เหมือนกัน คล้ายกับลายนิ้วมือที่ต้องเป็นของใครของมัน ฉะนั้น จึงได้พยายามหาวิธีการผลิตหูฟังแบบใหม่ ที่สามารถเข้ากับหูได้ทุกคน

ใช้ซิมมาตรฐานใหม่ Nano-SIM
แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น โดยสามารถสแตนบายได้ 225 ชั่วโมง, คุยผ่าน 3G ได้ถึง 8 ชั่วโมง, ดูวิดีโอได้นานถึง 10 ชั่วโมงและฟังเพลงได้นานถึง 40 ชั่วโมง
ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่สีดำและสีขาว
สำหรับราคาของ iPhone 5 เท่ากับ iPhone 4S คือ
รุ่น 16GB ราคา $199
รุ่น 32GB ราคา $299
รุ่น 64GB ราคา $399

(ราคาทั้งหมดเป็นแบบติดสัญญาของต่างประเทศ) เริ่มเปิดให้จอง (pre-order) ได้ตั้งแต่วันที่ 14 กันยายนนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายจริงในวันที่ 21 กันยายน โดยกลุ่มประเทศแรกที่วางจำหน่ายได้แก่ อเมริกา, แคนาดา, อังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ และแน่นอนว่า เมื่อมีการเปิดตัว iPhone 5 ส่งผลให้ iPhone 4S รุ่นก่อนหน้านี้ถูกปรับราคาลดลงตามธรรมเนียม โดยรุ่น 16GB ปรับราคาลงเหลือเพียง 19,500 บาท

ข้อมูลจาก: Apple

Read rest of entry